สถานที่นี้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับช่วงเวลาตอนเย็นเป็นอย่างมากเนื่องจากแสงพระอาทิตย์ที่ปายจะตกมาทางเขาพอดีและหลาย ๆ คนก็มาที่นี่เพื่อมานั่งผ่อนคลายดูพระอาทิตย์ตกกันนั่นเอง
และไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรกินเลยตอนที่จะขึ้นไปดูพระอาทิตย์เพราะข้างล่างก็จะมีร้านชำเล็ก ๆ ขายของกินเล่นๆ แต่อย่าลืมเก็บขยะด้วยนะครับ ฮ่าๆ
ห้องน้ำอยู่ข้างล่าง แนะนำให้ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนขึ้นไป เพราะว่าข้างบนนั่นต้องเดินขึ้นไปไกลอยู่นะ ถ้าปวดตอนอยู่ข้างบนนี่ไม่ทันแน่ๆ
พอเดินมาถึงข้างบนวิวก็จะประมาณนี้ แสงก็จะจ้า ๆ หน่อยนะครับ
ต้องบอกเลยว่านัทเองเพิ่งจะเริ่มมาสนใจถ่ายรูปฟิล์มเร็วๆนี้เอง และก็ไม่ค่อยรู้เรื่องฟิล์มอะไรมาก แต่บอกตรงๆว่านัทชอบถ่ายรูปมาก โดยเฉพาะถ่ายรูปฟิล์มกับคน
ซึ่งวันนนี้ผมมีอะไรมาให้ทุกคนดูทั้งรูปคนและรูปวิวนิดนึง5555
ฮั่นแหนะ หลายคนเห็นก็ต้องสงสัยแน่ๆเลยว่าใครกันที่อยู่ในรูป งั้นนัทแปะลิงค์ให้ไปติดตามได้เลย
มาดูรูปกว้างๆกันหน่อยดีกว่าเนาะ
อย่างนึงที่พิเศษสำหรับรูปชุดนี้คือเจ้ากล้อง Minolta a303si นี้มีคุณสมบัติที่สามารถถ่ายรูปในโหมด Panorama ได้ ซึ่งจะให้ความรู้สึกแนวหนัง(จะมีการตัดขอบด้านบนและด้านล่างเป็นแถบสีดำ)
กล่าวโดยสรุปว่าเจ้าฟิล์ม Kodak Pro Image นี้เหมาะ
แกการถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกหรือว่าในที่แสงไม่น้อยและไม่มากเกินไป ถ้าหากว่าถ่ายในที่มึดหรือสว่างมากๆ ก็จะทำให้รูปนั้นสว่างมากเกินจำเป็น (แต่ก็ขึ้นอยู่กับกล้องด้วยว่าใช้กล้องรุ่นไหน สำหรับเจ้ากล้องตัวนี้จะเป็นกล้องที่ใช้ระบบ Auto Focus และรูปที่นัทถ่ายนั้นนัทใช้ Auto Shutterspeed ซึ่งจะทำให้เจ้าตัวกล้องเลือกเองว่าแสดงประมาณนี้ควรถ่ายยังไง แต่นัทคิดว่าถ้าใช้ Manual ก็อาจจะทำให้ภาพดูดีไม่ Over อะไรเกินไปอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าใครหลายคนต้องอยากมาเที่ยวเชียงใหม่กันอยู่แล้ว แต่ก็คงมีบ้างแหละที่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน
ผมแนะนำที่นี่เลยครับ “ม่อนแจ่ม” เป็นสถานที่เที่ยวที่บูมที่สุดในช่วงนี้ ยิ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ฟินกันเลยที่เดียว
และวันนี้ผมจะมารีวิวให้เพื่อนๆเห็นกันชัดๆ ว่าบรรยากาศที่นั่นน่าไปขนาดไหน
มาดูกันเลย!!
ภาพเก็บตกในทริปนี้ครับผม
เปิดมาด้วยรูปที่ว่างปล่าว 555555
และปิดท้ายด้วยหนุ่มน้อยบนดอยสูง
เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับทริปเที่ยวของผมวันนี้ 5555
หวังว่าเพื่อนๆจะได้อะไรกลับไป เพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศกันด้วยนะครับ
สวัสดีครับเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน ผมมีตัวอย่างรูปที่ผมถ่ายจากโทรศัพท์มือถือแบบง่ายๆ แล้วผมก็ได้ได้ลองแต่งรูปเล่นๆ แนวกล้อง Film แล้วผลออกดีมากๆ จะดีขนาดไหนลองไปชมภาพก่อนและหลังใส่ Preset นี้กันดีกว่า
ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าทุกรูปเป็นรูปที่ผมถ่ายจากโทรศัพท์ทั้งหมดเลยนะครับ เพื่อนๆสามารถ ดาวน์โหลด Preset นี้ไปใช้กันแบบฟรีๆได้เลยครับ
ชอบกันมั้ยครับ ถ้าชอบก็สามารถดาวน์โหลดไปใช้กันฟรีๆ ได้เลย!
ดาวโหลดตามลิงค์ข้างล่างได้เลยครับ และถ้าหากว่าใครมีข้อสงสัยจะสอบถามสามารถ ส่งข้อความมาให้ผมได้ที่เพจ TOMSUTO ได้เลยครับ 🙂
หลังจากที่ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการตัดต่อวิดีโอเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าหากตัดต่อเสร็จแล้วก็ต้อง Export File Video ออกมา
และวันนี้เราจะได้เรียนรู้กันเกี่ยวกับการ Export File ใน Premiere Pro กันนะครับ
เริ่มด้วยการเปิดโปรเจคเก่าหรือโปรเจคที่ต้องการที่จะ Export ขึ้นมา
1. เลือกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวิดีโอ
เลือกโดยการกดคีย์ลัดในเป็นพิมพ์ด้วย I กับ O
I คือจุดเริ่มต้น
O คือจุดสิ้นสุด
2. ทำการตั้งค่าการ Export
เริ่มด้วยการกดที่แป้นพิมพ์ด้วย Ctrl + M แล้วจะแสดงหน้าต่างดังกล่าวขึ้นมา จากนั้นทำการตั้งค่าดังนี้
1. เปลี่ยนFormat
2. ใช้Format H.264
ถัดมาหลังจากตั้งค่า Format เสร็จแล้วเรามาตั้งค่าความละเอียดของคลิปวิดีโอของเรากัน
3. กดตรง Preset
4. เลือกความละเอียดที่ต้องการ (ในที่นี้จะยกตัวอย่างเป็น 1080P)
5. จากนั้นตั้งชื่อไฟล์พร้อมกับเลือกที่ที่จะ Save File ไว้
เมื่อไหร่ที่ทำการตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเลือก Frame Rate ของวิดีโอเป็น 24fps หรือ 23.976fps เพื่อที่จะได้วิดีโอที่มีความเป็น Cinematic และความสมบูรณ์ของรูปวิดีโอที่ออกมาด้วย
6. เลือก Frame Rate ที่ 24หรือ23.976fps
7. ที่การ Export File
หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีก ความเร็วของการ Export File จะขึ้นอยู่กับความเร็วของ CPU รวมไปถึง GPU และRAM ของแต่ละคนด้วยนะครับ ถ้าหากใครมีคอมช้าก็รอไป ไม่เสียหายครับ
การตัดต่อวิดีโอถือเป็นหัวใจหลักในการสร้าง Content ต่างๆบนโลกออนไลน์ ยิ่งในปี2020นี้ Video ต่างๆเข้ามามีบทบาทอย่างมากทั้งในการสร้างรายได้ต่างๆ ผ่านวิดีโอ หรือโฆษณา และยังมีแพลตฟอร์มอย่าง Youtube ที่เปิดโอกาศให้นักสร้างสรรค์ผลงานสามารถโพสต์ผลงานหรือความสามารถของตนเองลงในนั้นและทำการสร้างรายได้
วันนี้ผมเลยมีความรู้เบื้องต้นในการตัดต่อวิดีโอมาแชร์ให้เพื่อนๆกันครับ หากใครที่ยังไม่มีโปรแกรมสามารถ ดาวน์โหลด ได้จากลิงค์ข้างล่างได้เลยครับ โดยโปรแกรมที่เราจะใช้ชื่อว่า Adobe Premiere Pro CC2019
1. สร้างโปรเจคใหม่
พอเปิดโปรแกรมขึ้นมาให้ทำการสร้าง New Project จากนั้นให้ตั้งชื่อไฟล์และพื้นที่ที่จะเซฟไฟล์ไว้
2. Import ไฟล์วิดีโอลงในโปรเจค
นำไฟล์วิดีโอที่มีลงในโปรเจคของเราโดยการลากลงมายังหน้าต่าง Project Panel หรือถ้าหากใครยังไม่มีวิดีโอสามารถ ดาวน์โหลดวิดีโอฟรีๆ ได้ตรงลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลย
3. จัดการไฟล์เพื่อทำการตัดต่อ
หลังจากที่ได้ Import file ลงมายังโปรเจคเรียบร้อยให้ทำการเรียบเรียงไฟล์หรือจัดการไฟล์ต่างๆให้เรียบร้อย
3.1 ดับเบิลคลิกที่วิดีโอแล้วจะสังเกตุได้ว่าตรงจุด A จะมีวิดีโอตัวอย่างเกิดขึ้น และทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Footage ตัวนี้ตรงวินาทีที่เท่าไหร่ถึงวินาทีที่เท่าไหร่โดยกันกด I ตรงต้นคลิปแล้วกด O ตรงที่เราต้องการคลิป
3.2 ลากไฟล์ที่เราได้เลือกแล้วลงมายัง Timeline ข้างล่างตรงจุด B ได้เลย
4. ตัดต่อ
ขึ้นตอนนี้คือการตัดต่อวิดีโอโดยทำเหมือนขึ้นตอนที่ 3 แล้วนำคลิปวิดีโอมาเรียงการตามที่ทุกคนชอบ
4.1 เลือกเพลงที่ทุกคนอยากใส่ แล้วนำมาใส่ในวิดีโอเพื่อที่จะให้การตัดต่องายและตรงตามจังหวะของเพลงหรือเสียง
– สีเหลือง คือการลากไฟล์ภาพวิดีโอที่ไม่มีเสียงติดมาด้วย
– สีส้ม คือการลากไฟล์เสียงที่ไม่มีวิดีโอติดมาด้วย
*** การลางตรงกลางของภาพตัวอย่างคือการลากมาทั้งไฟล์วิดีโอและเสียง***
เริ่มการตัดต่อตามไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนได้เลย โดยจะมีเครื่องมือที่เราจะใช้บ่อยๆก็คือ
1. Select Tool ที่ใช้ในการเลือกไฟล์และลากไฟล์ต่างๆ
2. Razor Tool ใช้ไว้ตัดช่วงของคลิป
เราสามารถเพิ่มความยาวของคลิปวิดีโอได้ด้วยการนำเมาส์ไปชี้ตรงปลายของคลิปที่ต้องการจะยืดแล้วท่านจะสามารถยืดคลิปได้เลยทันทีโดยการลากออก
การตัดต่อวิดีโอมันไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยากครับหากเราฝึกฝนไปวันละนิดก็จะทำให้เราเก่งและสร้างรายได้จากการตัดต่อได้เยอะเลยทีเดียวจากประสบการ์ของผมนะครับ